วัตรับประทานส์ ผู้ชายผู้อยู่เบื้องหลังการบรรลุผลแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 
การบรรลุผลของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด นอกเหนือจากการดำเนินการที่ยอดเยี่ยมของ เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน แล้ว หนึ่งในบุคคลเบื้องหน้าเบื้องหลังที่มีส่วนสำคัญเป็นอย่างมากซึ่งก็คือ มัวริซ วัตรับประทานส์ สมัยก่อนผู้อำนวยการสมาพันธ์ซึ่งพึ่งเสียชีวิตอย่างสงบเงียบในวัย 79 ปีเมื่อวันจันทร์ก่อนหน้าที่ผ่านมา
วัตรับประทานส์ มีชื่อเสียงกันดีว่ามีลักษณะท่าทางที่นิ่งสงบ รวมทั้งเต็มได้มันสมองที่ฉลาดมากถึงแม้ณ ตอนนั้นจะอยู่ในตอนเหตุการณ์ที่ลำบากก็ตามโดยเขามีเกี่ยวพันกับกติกาสำคัญแทบทั้งหมดของสมาคมทั้งยังในรวมทั้งนอกสนาม
ที่สำคัญ วัตรับประทานส์ เป็นเสาหลักสำคัญในตอนที่ชมรมกำลังอยู่ในตอนวิกฤติไปจนกระทั่งตอนที่กลุ่มก้าวขึ้นมายิ่งใหญ่ที่สุดในหน้าประวัติศาสตร์กลุ่ม เมื่อ แมนฯ ยูไนเต็ด ได้เริ่มแต่ง อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน (ในขณะนั้นยังมิได้เป็นท่านเซอร์) เข้ามาจับบังเหียนในปี 1986
จากรายงานของ เดอะ ไทม์ส บอกว่า วัตรับประทานส์ กับประธานอีก 3 คนของแมนฯยูฯ ลงทุนเดินทางไปเจอ "เฟอร์กี้" ถึงประเทศสกอตแลนด์ เพื่อชักพาให้เขาย้ายมากุมบังเหียน "ภูติผีแดง"
ยังไม่หมดเท่านั้น วัตรับประทานส์ เป็นผู้ที่ชี้แนะสมาพันธ์ขาย อังเดร แคนเชลสกี้ส์ ปีกจรวดชาวรัสเซียเพื่อช่วยชักพาให้ นายใหญ่ชาวสกอตติเตียนช เชื่อถือในบรรดาเด็กดาวรุ่ง "คลาส ออฟ 92" ซึ่งต่อไปกรุ๊ปเด็กปั้นจากศูนย์ฝึกฝนเยาวชนของกลุ่มก็เปลี่ยนมาเป็นอย่างยิ่งสำคัญนำสมาพันธ์ยิ่งใหญ่ยิ่งใหญ่
วัตรับประทานส์ ซึ่งเป็นทนายความประจำสมาคมมาตั้งแต่ปี 1976 ก่อนที่จะถูกแต่งตั้งให้เข้ามาอยู่ในกระดานบริหารในฐานะผู้อำนวยการสมาพันธ์ปี 1984 และก็อยู่กับกลุ่มมายาวนานถึง 28 ปีกลายจะประกาศล่ำลาตำแหน่งในปี 2012
เขามีชื่อเสียงกันดีในฐานะอัยการมือแม่นในแวดวงกีฬา และก็ยังมีส่วนกับสถานะการณ์หลักๆของสมาพันธ์มาตลอดเป็นต้นว่าการที่เป็นผู้แทนของ ริโอ เฟอร์ดินานด์ ตำนานกองหลังตัวกลาง ของกลุ่มสำหรับการต่อสู้คดีที่ "ริโอ" ไม่ยินยอมไปตรวจโด๊ปในก.ย. ปี 2003 แต่ว่าท้ายที่สุดนักฟุตบอลถูกลงโทษแบนยาว 8 เดือน แล้วก็ปรับเงิน 50,000 ปอนด์ (ราว 2.2 ล้านบาท)
นอกเหนือจากนี้ วัตรับประทานส์ ในฐานะหัวหน้าทีมที่ปรึกษาทางด้านกฎหมายของ แมนฯ ยูไนเต็ด ได้เข้ามาช่วยชมรมและก็ เอริก คันโตน่า ต่อสู้คดีสุดโจษจัน "กังฟูคิก" ใส่ แม็ทธิว ซิมม่อนส์ แฟนบอล คริสตัล พาเลซ ในตอนระหว่างแมตช์เยี่ยมถิ่นเซลเฮิร์สท์ พาร์ค เมื่อมกราคม 1995
แม้กระนั้นสิ่งที่จะต้องพูดว่ามีสำคัญที่สุดสำหรับ แมนฯ ยูไนเต็ด ก็ว่าได้เกิดขึ้นในตอนซัมเมอร์ปี 2001 เมื่อ "เซอร์เฟอร์กี้" ออกมาเปิดใจว่าอยากที่จะเกษียณอายุตนเองข้างหลังจบฤดูกาล 2001/2002 ด้วยเหตุผลส่วนตัว และก็มีปัญหากับกระดานบริหาร
วัตรับประทานส์ ได้ยื่นมือเข้ามาไกล่เกลี่ยประเด็นนี้โดยทันทีโดยอุตสาหะที่จะบอกชักนำ เฟอร์กูสัน ให้อยู่กับสังกัดเดิมถัดไป จนกระทั่งท้ายที่สุด "เฟอร์กี้" ตกลงใจเลิกแนวความคิดที่จะวางมือในกุมภาพันธ์ 2002
การตัดสินใจในคราวนั้นนำมาซึ่งการทำให้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สามารถเดินหน้าสร้างการบรรลุผลเพิ่มเติมเยอะมากอีกทั้งการครองแชมป์พรีเมียร์ลีก อีก 6 ยุค, ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก อีก 1 ยุค ก่อนที่จะท้ายที่สุด "พ่อ" จะวางมืออย่างเป็นจริงเป็นจังในปี 2013
สำหรับ วัตรับประทานส์ ภายหลังจากจบขณะ 28 ปีที่รับใช้สมาพันธ์อย่างสัตย์ซื่อ เจ้าตัวก็ยังคงอยู่ในวงการกีฬาถัดไปโดยได้รับการแต่งให้ครอบครองตำแหน่งประธานชั่วครั้งชั่วคราวสโมสรรักบี้บอลลีกในปี 2012, ผู้อำนวยการแลงติดอยู่เชียร์ คันทรี คริกเก็ต คลับ, ประธานคณะกรรมการทางกฎหมายว่ายยุโรป แล้วก็ประธานสัมพันธ์ว่ายอังกฤษ ฯลฯ
นอกจากแวดวงกีฬาแล้ว วัตรับประทานส์ ยังเป็นคณะกรรมการมูลนิธิโรงหมอเด็กรอยัล แมนเชสเตอร์ ชิลเดรน แล้วก็ช่วยหารายได้บริจาดได้สูงยิ่งกว่า 68 ล้านปอนด์ (ราว 2,992 ล้านบาท) ยิ่งไปกว่านี้เขายังได้รับเหรียญตราชั้นซีบีอี (CBE) เมื่อปี 2011 จากผลงานการเกื้อกูลด้านการบุญ
การจากไปของ วัตรับประทานส์ เป็นเพียงแค่การลาร่างกายแค่นั้น แม้กระนั้นผีรวมทั้งผลงานที่เขาได้สร้างเอาไว้กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แล้วก็สังคม จะยังคงอยู่ในหัวใจของสาวก "เร้ด อาร์มี่" ชั่วกัลปาวสาน
ทอมเม้ง
