รุกไม่มีกลัว-รับยังมีตำหนิ! เจาะ 5 ใจความสำคัญ หงส์แดง สอย เอซี มิลาน เปิดฉากศึกแชมเปี้ยนส์ ลีก 
หงส์แดง เปิดฉากศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม กรุ๊ป บี ด้วยการเปิดรังแอนฟิลด์ เชือด เอซี มิลาน 3-2 เมื่อวันพุธที่ 15 เดือนกันยายนก่อนหน้านี้ โดยแมตช์นี้ “ลิเวอร์พูล” ได้โอกาสทำประตูเยอะมาก แม้กระนั้นโชคร้ายที่ขาดความเฉียบคม
แมตช์นี้ "เดอะ เร้ดส์" มีความเด่นเป็นอย่างมากในจังหวะการเล่นเกมบุก แม้กระนั้นสิ่งที่หายไปเป็นความจบสกอร์ที่แน่ๆ ในเวลาที่เกมรับเสียสมาธิไปบ้างจนกระทั่งส่งผลให้โดนยิงรวดสองประตูในช่วงท้ายครึ่งแรก
อย่างไรก็แล้วแต่ พบร์เก้น คล็อปป์ ชี้ให้เห็นแล้วว่าการเล่นเกมรุกดุเดือดทำให้ หงส์แดง สามารถกลับเหตุการณ์กลับมาคว้า 3 คะแนนได้เสร็จ ช่วงเวลาที่ ไม่ลาน ถือว่าเป็นการเปิดฉากการกลับมาเล่นถ้วย "บิ๊กเอียร์" หนแรกในรอบ 7 ปี แม้ว่าจะกลับไปอยู่บ้านมือเปล่า แม้กระนั้นพวกเขาก็สู้ได้สุดมันด้วยเหมือนกัน
1. มาตำหนิป เข้มแข็งคุมแนวรับอยู่มือ
ผลงานของ โฌแอล มาติเตียนป ขณะนี้นับได้ว่าเป็นปราการหลังที่สาวก "เดอะ ค็อป" ไว้เนื้อเชื่อใจได้เท่าๆกับ เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ โดยเกมนี้เขาปฏิบัติหน้าที่เป็นหัวหน้าในแผงแบ็กโฟร์ได้อย่างดียิ่ง รวมทั้งช่วยประคอบ โจ โกเมซ ทำให้สามารถเล่นได้อย่างไม่บีบคั้น
การที่ คล็อปป์ ตกลงใจดร็อป ฟาน ไดค์ คงจะส่งผลมาจากเรื่องสภาพร่างกายเนื่องจากว่าเอาเข้าจริงๆแนวรับชาวฮอลันดา คงจะยังไม่สมบูรณ์เต็มที่กระทั่งสามารถลงไปในสนามต่อเนื่องกันหลายเกม ถึงกระนั้นเกมรับของเจ้าของบ้านยังมองหนักแน่นด้วยเหตุว่าได้ มาติเตียนป รอปฏิบัติหน้าที่เป็นพี่ใหญ่คุมสถาานการณ์ได้หมด
ถ้าเกิดไม่นับตอน 5 นาทีในที่สุดของครึ่งแรก ตลอดทั้งเกม มาตำหนิป สามารถจัดแจงเกมบุกของ ไม่ลาน ได้หมดเรียบวุธ จังหวะสะสางบอลถูกต้องแม่นยำ การสกัดลูกโด่งที่เด็ดขาด แล้วก็ยังมีการโชว์สเต็ปขึ้นไปทำเกมบุกด้วย
ในส่วนของการขึ้นไปบีบคั้นแนวรับของ "อสุรกายแดงดำ" ตอนที่ หงส์แดง ได้ลูกเตะมุมก็ทำเป็นดี รวมทั้งเกือบจะทำคะแนนได้โชคร้ายที่จังหวะโหม่งของเขาไปตรงตัว ไมค์ เมนญอง โดยรวมแล้วผลงานของ มาติเตียนป ในแมตช์นี้ดีเลิศมากมายๆก็เลยไม่ประหลาดใจว่าเพราะเหตุไร อิบราฮิม่า โกนาเต้ จำเป็นต้องนั่งตบยุงอยู่ในซุ้มม้านั่งสำรองตั้งแต่เปิดฤดูกาล
ถ้าไม่กำเนิดอาเพศโดนโรคเดี้ยงพรากออกมาจากสนามสำหรับเพื่อการแข่งขัน งานนี้บอกเลยว่า มาติเตียนป กับ ฟาน ไดค์ น่าจะเป็นคู่แนวรับที่ คล็อปป์ จะใช้ไปยาวๆตลอดทั้งฤดูนี้ ส่วน โกเมซ กับ โกนาเต้ จะต้องคอยโอกาสของพวกเขาแค่นั้น
2. เล่นไม่กลัวจนถึงเกือบจะพังทลาย
ตั้งแต่ต้นเกมจนถึงเสียงนกหวีดยาวจากปากท่านเปาดังอื้ออึงสนาม แฟนบอล "ลิเวอร์พูล" อาจจะรู้สึกได้ถึงความสนุกสนานร่าเริงมันตื่นเต้นกับสไตล์การเล่นที่โคตรดุเดือดเช่นเดียวกันกับดนตรีเฮฟวี่ เมทัล ที่สาดใส่ เอซี มิลาน ประเภทที่มิได้หายใจหายคอกันอย่างยิ่งจริงๆ
การเล่นในสไตล์ "เกเก้นเพรสซิ่ง" ทำเอา "คอยสโซเนรี่" เปิดตำราเรียนพิชัยยุทธต่อกรแทบจะไม่ทัน ท้ายที่สุดมาเสียประตูจากการขึ้นเกมที่ยอดเยี่ยมของ "ลิเวอร์พูล" ก่อนที่จะจบที่ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ ซัดไถลแนวรับแขกเข้าประตู
ตลอดตอน 40 นาทีที่ หงส์แดง เปิดตัวไล่ยำไม่ลาน เกือบจะไม่มีอะไรต่อว่าเลยเพราะเหตุว่าพวกเขาเล่นเกมบุกได้ดุเดือด ส่วนเกมรับก็แทบจะไม่ต้องปฏิบัติงานเพราะว่า ไม่ลาน มัวแต่เปิดตำราเรียนตั้งรับกระทั่งแทบจะโงหัวไม่ขึ้น แต่ว่าสิ่งที่น่าติเตียนก็คือความเด็ดขาดสำหรับเพื่อการทำประตู รวมทั้งการเล่นติดประมาทเกินความจำเป็นหน่อย
ตอน 5 นาทีท้ายที่สุด ไม่ลาน ขึ้นเกมมาแบบมิได้ปรารถนาลุ้นอะไรมากเท่าไรนัก เสมือนจะผลาญเวลาให้หมดไปเพียงแค่นั้น แต่ว่าพวกเขากลับได้สองประตู เนื่องมาจากการเล่นที่ไม่รอบคอบของเกมรับเจ้าของบ้าน โดยยิ่งไปกว่านั้นการยืนตำแหน่งที่งวยงงมั่วราวกับไม่มีสมาธิ ซึ่งสิ่งนี้คงจะทำให้ คล็อปป์ เข้าไปสวดมนตร์ผู้ร่วมทีมยับในเวลาพักครึ่ง
ช่วงหลังการขาดสมาธิก็แทบทำให้กลุ่มจำเป็นต้องกลายเป็นรอง 3-1 แต่ว่าโชคดีจังหวะยิงของ ไซม่อน เคียร์ เป็นลูกล้ำหน้า แต่ว่าต่อจากนั้นดูราวกับว่าเกมของ หงส์แดง จะเล่นอย่างมีสมาธิไม่บุกเพลิดเพลินกระทั่งทำให้เสียตำแหน่ง รวมทั้งสามารถควบคุมสถานการณ์เกมยอมรับได้แน่นแฟ้น ในช่วงเวลาที่เกมรุกยังคงอันตรายในทุกจังหวะ
อย่างเดียวที่จะต่อว่าในแมตช์นี้ก็คือการบุกเพลิดเพลินกระทั่งออกอาการประมาทมากมายไปหน่อย แถมไม่อาจจะจบสกอร์ได้เฉียบคมทำให้คู่ต่อสู้ได้โอกาสฟื้น แล้วก็เกือบจะนำมาซึ่งหายนะ !!
3. เจ็ดปีที่คอยของ ไม่ลาน
สเตฟาโน่ ปิโอลี่ สามารถนำ เอซี มิลาน กลับมาสู่เวทีใหญ่ที่สุดในเกมบอลถ้วยยุโรป ซึ่งพวกเขาเคยมีอำนาจมานานในช่วงปลายสมัย 80 จนกระทั่งกึ่งกลางสมัย 90 นี่เป็นสิ่งที่แฟนบอลไม่ลาน รอคอยมาตลอดกับบรรยากาศวิกาลตอนกึ่งกลางอาทิตย์
จะว่าไปแล้ว "ภูติผีแดงดำ" มาเยี่ยมถิ่นแอนฟิลด์ด้วยฟอร์มที่อันตรายพอเหมาะพอควร โดยผลงานในลีกของพวกเขาก็ดีที่สุดเมื่อกลุ่มชนะมา 4 เกมต่อเนื่องกันรวมทุกรายการ แม้กระนั้นพวกเขาจะต้องมาเจอกับเจ้าของบ้านที่ฟอร์มกระฉูดไม่แพ้กัน
จำเป็นต้องเห็นด้วยว่า ปิโอลี่ แอนด์ วัว. คงจะไม่เคยพบกับสไตล์การเล่นที่ไล่เพรสซิ่งตั้งแต่กรอบจุดโทษคู่ต่อสู้ราวกับที่ หงส์แดง ชี้ให้เห็น ขณะที่พวกเขาปะทะกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในศึกยูโรปา ลีก เมื่อฤดูกาลก่อนหน้านี้ที่ผ่านมา ก็ยังไม่เคยโดนเกมบุกแบบบ้าเลือดจำพวกที่ไม่ให้หายใจหายคอแบบงี้ด้วย
อย่างเดียวที่จะต้องกล่าวว่า "คอยสโซเนรี่" รอดการเสียประตูเป็นกระบุงก็เนื่องจากว่า "เดอะ เร้ดส์" ไม่เด็ดขาด ส่วนจังหวะที่พวกเขาได้สองประตูก็จะต้องชูเครดิตสำหรับในการเล่นเกมรุก แต่ว่าเวลาเดียวกันก็จะต้องจวกแนวรับ หงส์แดง ที่ดันงวยงงตำแหน่งจนกระทั่งโดนลงโทษอย่างที่มองเห็น
การกลับคืนสู่เวทีแชมเปี้ยนส์ ลีก ของ ไม่ลาน จะต้องบอกเลยว่าพวกเขายังมีงานสุดหินรออยู่อีกทั้งการเจอกับ แอตเลติเตียนโก มาดริด แล้วก็เอฟซี ปอร์โต้ ถ้าหากยังต้องการจะไปให้ไกลกว่านี้ ปิโอลี่ จำต้องรีบกระตุ้นกลุ่มโดยด่วน
4. ดินแดนกึ่งกลางแน่น-ฟูลแบ็กเพิ่มเกมสุดมัน
คล็อปป์ ตกลงใจส่ง จอร์แดน เฮนเดอร์สัน เล่นร่วมกับ นาบี เกอิต้า และก็ ฟาบินโญ่ ซึ่งนับว่าเป็นแผงมิดฟิลด์ที่ทำผลงานได้อย่างกล้าแกร่ง รวมทั้งจัดแจงไม่ให้กองกลาง "รอคอยสโซเนรี่" ได้ปั้นเกมอย่างที่จิตใจอยากได้ได้เลย
"กัปตันเฮนโด้" กับ ฟาบินโญ่ ใส่ผสานการเล่นได้อย่างพอดีโดยในรายของ เฮนเดอร์สัน รอช่วยตัดเกม ผ่านบอลแถมยังสร้างช่องทางให้เพื่อนพ้องร่วมกลุ่มได้พอเพียง 3 ครั้ง แล้วก็ทำประตูสุดงามซะด้วย
ระหว่างที่ กองกลางกลุ่มชาติบราซิล รอปฏิบัติภารกิจเชื่อมเกมแล้วก็คุมจังหวะ มีบางโอกาสที่วิ่งใส่ขึ้นไปบีบคั้นแนวรับไม่ลาน ส่วน เกอิต้า แมตช์นี้เล่นได้ดีไม่แพ้กัน อีกทั้งการวิ่งเพิ่มเกมที่เร็วทันใจ, แย่งบอลจากคู่ต่อสู้ได้แม่น และก็ยังอุตสาหะเลี้ยงบอลทะลุเข้าไปในกรอบจุดโทษไม่ลานด้วย
ส่วนสองฟูลตัวบุกปีกซ้าย-ขวาจำเป็นต้องบอกเลยว่าปอดกับหัวใจเสริมใยเหล็กมาหรือไม่ เพราะว่าทั้งยัง แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน แล้วก็ "เจ้าหนูเทรนต์" วิ่งขึ้นวิ่งลงแบบไม่เคยทราบอ่อนแรง ซึ่งทำให้เกมทางกราบมีความอันตรายรวมทั้งเกือบจะช่วยทำให้กลุ่มได้ประตูหลายหนหลายหน
ในส่วนของ โรเบิร์ตสัน ไม่มีอะไรจำต้องต่อว่าเพราะว่าปฏิบัติภารกิจได้อย่างพอดี ทั้งยังวิ่งดันเกมรุกสร้างช่องทางให้กลุ่มได้พอๆกับ "เฮนโด้" ในเวลาที่เกมรับก็เล่นได้เนียนตา ส่วน อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ก็ยังคงอย่างเดิม เกมรุกดีเกมรับพลาด โดยสองประตูที่กลุ่มเสียก็มาจากการควบคุมไม่ดีทางฝั่งขวา ซึ่งเป็นจุดที่เขาจำเป็นต้องปรับแต่งถัดไป
5. บังโมเทียบเคียงตำนานกัปตันสตีวี่จี
นี่เป็นอีกหนึ่งเกมที่ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม ความรวดเร็ว แล้วก็ความแข็งแกร่งของเขาป่วนปั่นเกมรับ ไม่ลาน จนกระทั่งตั้งกระบวนยุทธจัดการไม่ไหว มีหลายหนที่ "บังโม" แทบที่จะจ่ายบอลไปซุกตูดตาข่ายในตอนครึ่งแรก
"บังโม" พึ่งจารึกชื่อเป็นนักฟุตบอลท