เตรียมความพร้อมรับวิกฤติ! 5 ระบบ คล็อปป์ จัดแจงใช้กรณีขาด 3 หน้าแข้งรอยดำทวีป พบร์เก้น คล็อปป์ เพิ่งทดลองกลุ่มด้วยการจัดชุดประสมประสานระหว่างดาวรุ่งกับหน้าแข้งชุดใหญ่ในแมตช์ที่ต้อน ชรูว์สบิวปรี่ 4-1 ศึกเอฟเอ คัพ รอบ 3 เมื่อวันอาทิตย์ก่อนหน้านี้ที่ผ่านมา ซึ่งก็จัดว่าสอบได้ในระดับหนึ่งสำหรับเพื่อการสู้กับกลุ่มในระดับ ลีก วัน
"เดอะ เร้ดส์" เลือกใช้นักฟุตบอลชุดใหญ่อย่าง เฟอร์จิล ฟาน ไดค์, อิบราฮิม่า โกนาเต้ , แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน และก็ ฟาบินโญ่ พอดีจริง ตอนที่ โรกางร์โต้ ฟีร์มีโน่ กับ ทาคุมิ ไม่นามิโนะ ลงเป็นตัวสำรอง
หากว่าแมตช์นี้ ชรูว์สบิวปรี่ จะบุกมายิงนำไปก่อนก็ตาม แต่ว่าด้วยประสิทธิภาพของ "ลิเวอร์พูล" รวมทั้งขุมกำลังที่เหนือกว่าทำให้พวกเขาสามารถกลับเหตุการณ์กลับมาคว้าแชมป์ได้จากการยิงของ เคด กอร์ดอน, ฟาบินโญ่ (2 ประตู) และก็ ฟีร์มีโน่
การทดสอบกลุ่มของ คล็อปป์ ในแมตช์นี้นับว่าน่าดึงดูดอย่างยิ่งจริงๆ เพราะว่าในตอนนี้แคมป์ "ลิเวอร์พูล" มีปัญหาใหญ่อีกทั้งนักฟุตบอลติดวัววิด-19 โดยรายปัจจุบันก็คือ เทรนต์-อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ แถมกำลังสำคัญอย่าง ซาดิโอ มาเน่, โมฮาเหม็ด ซาลาห์ รวมทั้ง นาบี เกอิต้า จำเป็นต้องเดินทางไปรับใช้กองทัพทำศึกทำสงครามแอฟริกา คัพ ออฟ เนชั่นส์
ในรายของ "ชายหนุ่มเทรนต์" คาดว่าจะได้กลับมาช่วยกลุ่มในเกมเจอ อาร์เซน่อล รอบตัดเชือก ศึกติดอยู่ราบาว คัพ ที่แอนฟิลด์ แม้กระนั้น 3 หน้าแข้งรอยแดงทวีปหมดสิทธิ์ลงสู่สนามให้กลุ่มในเกมเจอ "ปืนใหญ่", จัดการ เบรนท์ฟอร์ด รวมทั้งเยี่ยม คริสตัล พาเลซ เป็นอย่างต่ำ
งานนี้ คล็อปป์ จำต้องจัดแจงแผนให้พร้อมในการขาดผู้เล่นสำคัญทั้งยัง 3 คนไปเป็นเวลายาวนานกว่า 1 เดือน โดยงานนี้ผู้จัดการทีมชาวเยอรมัน คงจะมีออปชั่นเพื่อจะรองรับเหตุการณ์นี้เอาไว้แล้ว
ฟีร์มีโน่ยืนหน้าเป้าเต็มดูด
สำหรับแมตช์ที่เจอกับ ชรูว์สบิวปรี่ สิ่งหนึ่งที่ คล็อปป์ ค่อนจะสุขสบายเป็นพิเศษคงจะหนีไม่พ้นการทำประตูสุดงามของ ฟีร์มีโน่ ที่โชว์ลีลาท่าทางแซมบ้าตอกส้นจ่ายบอลเข้าไปซุกตูดตาข่าย
"บ็อบบี้" พลาดลงในสนามในเกมที่บุกเสมอ เชลซี เพราะติดวัววิด โดยนักฟุตบอลสบโอกาสโชว์ท่าทางในตอนครึ่งชั่วโมงในที่สุดเกมกับกลุ่มลีก วัน แล้วก็ผลงานของเขาชี้ให้เห็นว่าเจ้าตัวกลับมาฟิตบริบูรณ์แล้ว
การขาด มาเน่ กับ "บังโม" ไปนานทำให้ หงส์แดง คงจำเป็นต้องพึ่งพิง ฟีร์มีโน่ สำหรับในการทำคะแนนตอนหลายๆอาทิตย์ถัดจากนี้ โดยจะติดต่อประสานงานกับ ดีโอเก๋ โชต้า และก็ อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน
ตอนที่ เคอร์ติเตียนส โจนส์ ซึ่งโดนจับไปเล่นเป็นแถวรุกในเกมกับ ชรูว์สบิวปรี่ แม้กระนั้นดูราวกับว่าฟอร์มไม่ค่อยเด่น งานนี้ คล็อปป์ อาจจะจับมายืนในตำแหน่งกองกลางที่เจ้าตัวถนัด แล้วก็ติดต่อประสานงานกับ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน กับ ฟาบินโย่
สำหรับแผงแบ็กโฟร์ แน่ๆว่า ผู้จัดการทีมฟุตบอลเลือดด๊อยท์ช ไม่ค่อยต้องการปรับเท่าไรนักหากว่าไม่มีคนไหนเจ็บหรือติดวัววิด อาจจะเป็นหน้าที่ของ เทรนต์, โฌแอล มาว่ากล่าวป, ฟาน ไดค์ แล้วก็ โรเบิร์ตสัน
ใช้งาน ไม่นามิโนะ จับ โชต้า หน้าเป้า
คล็อปป์ ค่อนจะซาบซึ้งใจผลงานของ ทาคุมิ ไม่นามิโนะ พอเหมาะพอควรภายหลังที่นักฟุตบอลได้ลงเล่นในตอนต้นช่วงหลังในเกมปัจจุบัน โดยฟอร์มของเขาทำให้เห็นว่าไม่มีการบาดเจ็บคงเหลืออยู่แล้ว
งานนี้ สตาร์คนประเทศญี่ปุ่น คงจะได้ลงเล่นตัวจริงในตอน 2-3 แมตช์ถัดจากนี้ โดยความสามารถของเขาสามารถที่จะข่มขู่แนวรับคู่ปรปักษ์ แล้วก็ที่สำคัญเขาเป็นนักฟุตบอลที่มีการเคลื่อนหาตำแหน่งได้หลักแหลมจริงๆในแนวรุก
ที่ผ่านมาในบางครั้ง ผู้จัดการทีมชาวเยอรมัน ก็เคยปรับแผนมาเล่นในระบบ 4-2-3-1 (ซึ่งบางทีก็อาจจะแปลงเป็นระบบ 4-5-1 หรือ 4-2-4) งานนี้มีความน่าจะเป็นไปได้ที่จะนำระบบนี้กลับมาใช้ในเรื่องที่ขาด ซาลาห์ แล้วก็ มาเน่
อย่างไรก็แล้วแต่สิ่งที่อาจก่อให้กำเนิดปัญหาก็คือการจับ แชมเบอร์เลน ไปยืมขอบเล่นในระบบนี้ ด้วยเหตุว่าเอาเข้าจริงๆนักฟุตบอลคงจะทำผลงานได้ดีมากว่าเมื่อโดนจับไปยืนในแผงกองกลางมากยิ่งกว่า
ถึงเวลา โอริกี้
การขาด โอริกี้ ในตอนก่อนหน้าที่ผ่านมาทำให้ คล็อปป์ เซ็งพอควร อย่าลืมว่า จอมบุกชาวเบลเยียม ยังคงมีคุณประโยชน์เสมอโดยเฉพาะในยามที่ "ลิเวอร์พูล" เกิดความคิดสำหรับในการทำคะแนนตัน และก็เขาสามารถลงมากลับเกมได้มองได้จากแมตช์ชนะ วูล์ฟส์ รวมทั้ง เอซี มิลาน ฯลฯ
คล็อปป์ เห็นด้วยว่า โอริกี้ เคยมีความคิดที่จะล่ำลาถิ่นแอนฟิลด์บ่อยในตอนก่อนหน้านี้ แต่ว่าเขายังคงอยากที่จะให้นักฟุตบอลอยู่ต่อเนื่องจากว่าแน่ใจว่าเจ้าตัวจะสร้างผลงานได้ดิบได้ดีเมื่อมีสภาพร่างกายที่ฟิตบริบูรณ์
ด้วยเหตุผลดังกล่าวในกรณีนี้นายใหญ่เมืองเบียร์สดบางครั้งก็อาจจะเปิดโอกาส โอริกี้ ได้เป็นตัวหลักในดินแดนหน้าโดยจับคู่กับ ดีโอหรูหรา โชต้า และก็ถอย ฟีร์มีโน่ ลงมายืนต่ำนิดเดียว โดยแผนจะคล้ายกับระบบไดมอนด์
แน่ๆว่าสาวก "เดอะ ค็อป" บางทีก็อาจจะรู้สึกหนักใจเพราะเหตุว่า โอริกี้ ชอบทำผลงานไม่ค่อยสะดุดตาในตอนที่ลงเป็นตัวจริง แม้กระนั้นในยามที่ขาดแนวรุกตัวหลัก การมีเขาอยู่ในสนามก็คงจะทำให้เกมรุกของกลุ่มข่มขู่แนวรับคู่ปรับได้
ขยับ เทรนต์ ยืนกองกลาง
สำหรับกรณีนี้ดูเหมือนกับว่า คล็อปป์ ไม่ค่อยจะเห็นด้วยซักเท่าไหร่ เพราะว่าการจับ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ มายืนกึ่งกลางไม่เคยอยู่ในไอเดียของเขาเลย แต่งานนี้เจ้าตัวบางครั้งก็อาจจะพินิจทดลองใช้ก็ได้
ตำแหน่งตัวบุกปีกขวาจะถูกแทนที่โดน เนโก วิลเลี่ยมส์ ในตอนที่ แชมเบอร์เลน จะได้ยืนเป็นตัวรุกทางกราบขวาโดยติดต่อประสานงานกับ ฟีร์มีโน่ รวมทั้ง โชต้า สำหรับการไล่ล่าตาข่ายคู่แข่งขัน
กรณีของ วิลเลี่ยมส์ เคยได้รับจังหวะลงเล่นในตำแหน่ง 3 แนวรุกมาแล้วฤดูนี้ซึ่งแม้เป็นกรณีนี้ แชมเบอร์เลน อาจจะโดนจับมายืนตำแหน่งกองกลางดังเดิม รวมทั้ง เทรนต์ กลับไปทำหน้าที่ตัวบุกปีกขวา ซึ่งนับว่าเป็นเป้าหมายที่บางครั้งอาจจะเป็นได้ในขณะนี้
แม้กระนั้นระบบนี้อาจจะเป็นไปได้ว่าจะมีจุดบกพร่องตรงที่ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ถูกโยกไปยืนทางฝั่งซ้าย ทำให้สมรรถนะของเขาน้อยลง กระนั้น โจนส์ กับ เจมส์ ไม่ลเนอร์ สามารถเล่นในตำแหน่งนี้ได้ด้วยเหมือนกัน
กอร์ดอน โชว์ของ
มีความน่าจะเป็นเหมือนกันที่ หงส์แดง บางทีก็อาจจะเชื่อถือในตัว เคด กอร์ดอน ภายหลังที่เจ้าตัวโชว์ฟอร์มได้อย่างเด่น และก็ทำประตูในเกมเอฟเอ คัพ ซึ่งๆหน้า
สาวก "เดอะ ค็อป" เมื่อสุดสัปดาห์ก่อนหน้านี้ที่ผ่านมา ความสามารถของ กอร์ดอน อาจไม่อาจจะเทียบเคียงได้กับ ซาลาห์ ที่ถนัดเท้าซ้าย แล้วก็ชอบลากบอลตัดเข้าในก่อนที่จะทำประตู ซึ่งแน่ๆว่าเจ้าหนูวัย 17 ปี ไม่
สามารถทำเป็นดัง "บังโม" แม้กระนั้นฟอร์มของเขาสามารถที่จะสามารถช่วยกลุ่มได้ในตอนที่ขาด "คิง ออฟ อียิปต์" สำหรับทางฝั่งขวา กอร์ดอน จะได้รับการผลักดันจาก "กัปตันเฮนโด้" และก็ "ชายหนุ่มเทรนต์" ซึ่งคงจะทำให้เขาสามารถระเบิดฟอร์มการเล่นออกมาได้อย่างมาก
เห็นได้ชัดเจนว่า คล็อปป์ มีความเชื่อมั่นในบรรดานักฟุตบอลดาวรุ่งของเขาเสมอ รวมทั้งพร้อมเปิดโอกาสถ้าหากหน้าแข้งวัยกระเต๊าะพวกนั้นมีความสามารถที่สามารถจะช่วยกลุ่มได้ ด้วยเหตุผลดังกล่าวแฟนบอลหงส์แดง บางครั้งก็อาจจะได้มองเห็น กอร์ดอน ติดต่อประสานงานแนวรุกกับ ฟีร์มีโน่ รวมทั้ง โชต้า อีกหลายๆเกมถัดจากนี้ก็ได้
ทอมเม้ง