กางสถิติให้เห็นกันจะจะ…คู่กลาง "แม็ค-เฟร็ด" ของแมนยูห่วยจริงหรือว่าแจ่มแจ๋ว?

กางสถิติให้มองเห็นกันแจ่มแจ้ง…คู่กึ่งกลาง "แม็ค-เฟร็ด" ของแมนยูห่วยแตกใช่หรือว่าแจ่มเจ๋ง? กางสถิติให้เห็นกันจะจะ...คู่กลาง "แม็ค-เฟร็ด" ของแมนยูห่วยจริงหรือว่าแจ่มแจ๋ว?  “แม็คเฟร็ด” – นี่เป็นรหัสลับของสองมิดฟิลด์คู่ขวัญกลุ่ม แมนฯ ยูไนเต็ด ที่ยังคงกลายเป็นคำนินทาของกองเชียร์ ภูติผีปีศาจแดง โดยตลอด

     มันเป็นเนื่องจากว่าเสียงส่วนมากไม่สู้จะชื่นชอบผลงานในสนามของสองตัวรุกคู่นี้ซึ่งมักถูกผู้จัดการทีมฟุตบอล โอเล่ กุนทุ่งนาร์ โซลชา ส่งลงบู๊ร่วมกัน รวมทั้งถูกใครๆดูในเชิงดูถูกดูแคลนว่าไม่มีความสามารถภาพมากพอที่จะพา ยักษ์แดง ผงาดขึ้นยอดเยี่ยมกลุ่มชั้นหนึ่งของพรีเมียร์ลีก

     อันรวมทั้งการพยายามคว้าถ้วย ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ด้วยด้วยเหมือนกัน

     โดยเหตุนี้แล้วในตอนซัมเมอร์ก่อนหน้านี้ที่ผ่านมาก็เลยมีเสียงวิงวอนจากสาวกของรั้ว โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ให้กลุ่มรักเซ็นสัญญาคว้ากองกลางตัวรับชั้นยอดเยี่ยมมาร่วมชายคาเพื่อเสริมคุณลักษณะเด่นให้กับกลุ่ม และก็ถ้าหากจะไม่ได้อะไรมิได้ผู้ใดกันแน่เข้ามาร่วมค่าย หลายท่านก็สรุปตรงกันว่าผู้จัดการทีมฟุตบอลชาวนอรวีเจี้ยนคงจะใช้งาน ปอล ป็อกบา เป็นกองกึ่งกลางคู่กับ สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ มากยิ่งกว่าปลดปล่อยให้ เฟร็ด ลงไปเป็นข้อด้อย

 

กางสถิติให้เห็นกันจะจะ...คู่กลาง "แม็ค-เฟร็ด" ของแมนยูห่วยจริงหรือว่าแจ่มแจ๋ว?

 

     แต่ว่าก็นั่นแหละ แฟนบอล แมนฯ ยูไนเต็ด รู้กันอย่างจริงๆจังหรือไม่ว่าการไม่มีคู่ซี้ "แม็คเฟร็ด" ลงไปในสนาม จะเกิดผลดีหรือผลกระทบในทางร้ายต่อสมาพันธ์กันแน่?

     แล้วก็ปัจจุบันทุกคนได้มองเห็นกันแล้วในเกม พรีเมียร์ลีก นัดหมายออกไปแพ้ เลสเตอร์ สิตี้ เลอะเทอะ 4-2 โดย แมนฯ ยูไนเต็ด ไม่บางทีอาจใช้งาน เฟร็ด ที่ติดภารกิจลงเล่นให้กลุ่มชาติบราซิลออกศึกเวิร์ลคัพรอบเลือกสรรได้

     ถึงนี้ ก็เลยมีทิศทางสูงว่านายใหญ่ชาวนอรเวย์หวังพึ่งสองมิดฟิลด์ "แม็คเฟร็ด" ในเกมเปิดบ้านต้อนรับ อตาลันต้า ในศึก แชมเปี้ยนส์ลีก รอบแบ่งกลุ่มวันพุธนี้ด้วยหวังว่าชมรมจะมีเกมในดินแดนกึ่งกลางที่พอดี แล้วก็แน่นปึ๊กมากยิ่งขึ้น

     แม้กระนั้นก็นั่นแหละ เกิดเรื่องหลบหลีกมิได้จริงๆที่ควรจะมีการเมาท์กันว่า "แม็คเฟร็ด" สร้างผลดีให้กับกลุ่มได้จริง หรือเป็นตัวถ่วงความเจริญก้าวหน้า แม้ว่าจะว่าไปแล้ว ผีแดง ได้โอกาสผสมสูตรในจุดนี้ได้อีกหลายอ็อปชั่นเนื่องจากว่าพวกเขายังมีตัวเลือกอย่าง ดอนนี่ ฟาน เดอ เบ็ค รวมทั้ง เนมานคุณย่า มาติเตียนช ให้เลือกใช้งานด้วยเหมือนกัน

     อย่างไรก็แล้วแต่ นี่เป็นสถิติตั้งแต่แมื่อฤดูกาล 2020/21 ซึ่งสามารถเผยได้ว่าคู่ขา "แม็คเฟร็ด" เหมาะได้ลงไปในสนามพร้อมไหม?

 

กางสถิติให้เห็นกันจะจะ...คู่กลาง "แม็ค-เฟร็ด" ของแมนยูห่วยจริงหรือว่าแจ่มแจ๋ว?

 

 – แมนฯ ยูไนเต็ด ในยามที่มี "แม็คเฟร็ด" ลงเล่นคู่กัน

 เกม : 32 นัดหมาย

 ชนะ : 17 นัดหมาย

 เสมอ : 10 นัดหมาย

 แพ้ : 5 นัดหมาย

 ประตูได้ : 67

 ประตูได้เฉลี่ยต่อเกม : 2.09

 ประตูเสีย : 27

 ประตูเสียเฉลี่ยต่อเกม : 0.84

 แต้มต่อเกม : 1.91

 เรตชนะ : 53.1%

 เรตแพ้ : 15.6%

 

กางสถิติให้เห็นกันจะจะ...คู่กลาง "แม็ค-เฟร็ด" ของแมนยูห่วยจริงหรือว่าแจ่มแจ๋ว?

 

 – แมนฯ ยูไนเต็ด ในยามที่ไม่มี  "แม็คเฟร็ด" ลงเล่นคู่กัน

 เกม : 39 นัดหมาย

 ชนะ : 23 นัดหมาย

 เสมอ : 6 นัดหมาย

 แพ้ : 10 นัดหมาย

 ประตูได้ : 70

 ประตูได้ต่อเกม : 1.79

 ประตูเสีย : 49

 ประตูเสียต่อเกม : 1.26

 แต้มต่อเกม : 1.92

 เรตชนะ : 59.0%

 เรตแพ้ : 25.6%

 

กางสถิติให้เห็นกันจะจะ...คู่กลาง "แม็ค-เฟร็ด" ของแมนยูห่วยจริงหรือว่าแจ่มแจ๋ว?

 

 

     ยังไงเสีย ถ้าเกิดจะถอยเวลากลับไปเป็นเวลายาวนานกว่านั้น "แม็คเฟร็ด" ได้ลงเล่นคู่กันรวมทั้งสิ้น 55 นัดหมาย แล้วก็ แมนฯ ยูไนเต็ด แพ้เพียงแค่ 10 นัดหมายอันมีความหมายว่าพวกเขามีเปอร์เซนต์กำความมีชัย 58%

     ที่สำคัญ แฟนบอล ซาตานแดง อาจจะไม่ลืมเลือนว่าคู่นี้ติดต่อประสานงานกันในเกม แชมเปี้ยนส์ลีก รอบ 16 กลุ่มนัดหมายสองของฤดูกาล 2018/19 เช่นเดียวกันโดยกลุ่ม อสุรีร้าย สร้างปาฎิหารย์เขี่ย กรุงปารีส แซงต์ แชร์กแมง กระเด็นไม่เข้ารอบได้อย่างไม่น่าเชื่อเป็นที่สุดข้างหลังเฝ้าบ้านโดนกลุ่มจากลีกเอิงบุกมาตีไปก่อน 2-0 ในเกมแรกซึ่งเจ้าของบ้านไม่มี "แม็คเฟร็ด" ลงบู๊

     สำหรับแปดครั้งแรกของศึก พรีเมียร์ลีก ฤดูกาลนี้ "แม็คเฟร็ด" ได้ลงในสนามด้วยกันสี่เกม ก่อนที่จะตัวรุกกลุ่มชาติสกอตแลนด์จะมีลักษณะอาการเจ็บขาหนีบ
 
     และก็ภายหลังจากสร้างผลงานด้วยกันก้าวหน้า แมนฯ ยูไนเต็ด ก็เสียท่าเสียรู้ปราชัยให้กับ แอสตัน วิลล่า 1-0 ที่ โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด โดยที่มี "แม็คเฟร็ด" ออกสตาร์ต

     ถึงงั้นก็เห็นได้ชัดว่าพ่อค้าลำแข้งคนเมืองกาแฟ รวมทั้งวิสกี้สามารถเป็นที่พึ่งพิงของกลุ่มได้ และไม่ควรจะเป็นอย่างมากที่ แมนฯ ยูไนเต็ด จะนิ่งเฉยจับคนใดนั่งอยู่ข้างสนาม

     แล้วหลังจากนั้นในเกมแรกของถ้วย แชมเปี้ยนส์ลีก รอบแบ่งกลุ่ม ผีแดง ก็ออกสมุทรบุกไปแพ้กลุ่มรองบ่อนอย่าง ยังบอยส์ 2-1 โดยเกมที่ว่านี้ แม็คโทมิเนย์ ไม่มีส่วนร่วมเนื่องด้วยเจ็บ รวมทั้งเป็น ดอนนี่ ฟาน เดอ เบ็ค ที่ โซลชา ส่งลงบู๊เป็นคู่ซี้ของ เฟร็ด

     ต่อมาในเกมเฝ้าบ้านสยบ บียาร์เรอัล เฉียด 2-1 จากประตูชัยในช่วงต่อเวลาพิเศษของ โรนัลโด้ เฟร็ด ก็โดนจับนั่งเป็นสำรองโดยที่ แม็คโทมิเนย์ ได้ลงเล่นคู่กับ ป็อกบา

 

กางสถิติให้เห็นกันจะจะ...คู่กลาง "แม็ค-เฟร็ด" ของแมนยูห่วยจริงหรือว่าแจ่มแจ๋ว?

 

     จะว่าไปแล้ว กลุ่มเรือดำน้ำสีเหลือง นับว่าเป็นคู่ปรับที่สร้างความแสบสันต์ให้กับ แมนฯ ยูไนเต็ด ได้บ่อยเหตุเพราะในนัดหมายชิงดำถ้วย ยูโรปาลีก ฤดูกาลก่อน โซลชา ชวดคว้าโทรฟี้ไปครอบครองเป็นใบแรกจากการปราชัยดวลลูกโทษวินิจฉัยแบบมาราธอน ภายหลังทั้งสองฝ่ายเท่ากัน 1-1 ใน 120 นาทีซึ่งเกมที่ว่านี้ที่ปรึกษาหน้าละอ่อนส่ง แม็คโทมิเนย์ ลงบู๊ และก็จับ เฟร็ด นั่งอยู่ข้างสนาม

     และก็จากสองเกมของถ้วยหูใหญ่ในฤดูกาลนี้ ผีแดง เก็บได้สามแต้ม ก็เลยนับว่ายังไม่เสียหายมากเท่าไรนักข้างหลังปราบกลุ่มจาก ลา ลีกา ได้อย่างเฉียดฉิว

     แต่ว่าเพื่อเป็นการเรียกเลื่อมใสคืนมาจากแฟนบอล โซลชา ก็เลยเหมาะสมวางหมากให้ดีเพื่อพาทีมคว่ำ อตาลันต้า ให้ได้ หากแม้มันบางทีอาจไม่ถึงกับเสียหายเท่าไรนักถ้าหากกลุ่มดังของอังกฤษจะสะดุดกันอีกก็เหอะ

     โน่นเป็นเพราะ แมนฯ ยูไนเต็ด ยังสามารถแก้ตัวได้ในอีกสามนัดหมายท้ายที่สุดของรอบแบ่งกลุ่ม แม้กระนั้นมันแน่ๆอยู่แล้วว่าผู้จัดการทีมฟุตบอลทุกคนล้วนอยากพาทีมประสบผลสำเร็จในทุกๆเกมที่คุมกลุ่มลงสู่สนาม

     ทั้งยังไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเกมปะทะกับ อตาลันต้า จะเป็นแรงส่งต่อไปถึงศึกวันแดงเดือดที่ แมนฯ ยูไนเต็ด จะประจันหน้ากับ หงส์แดง ในรังตนเองตอนสุดสัปดาห์

     มันก็เลยขึ้นกับ โซลชา แล้วว่าจะส่ง "แม็คเฟร็ด" กลับมาลงเล่นร่วมกันในเกมวันพุธนี้เลยหรือไม่

     หรือคิดเก็บความสดของทั้งสองเอาไว้ต่อกรกับ ลิเวอร์พูล ซึ่งบางทีอาจสำคัญกว่านัดประมือกับ อตาลันต้า ก็เป็นไปได้เพราะ แมนฯ ยูไนเต็ด ยังอยู่ในทางของศึก แชมเปี้ยนส์ลีก ไม่ว่าพวกเขาจะส่งผลลัพธ์เป็นอย่างไร