เมอร์ซี่ไซด์ดาร์บี้เกมเดียวทำอดีตกาลเปาดังเหยียบเราดิสันพาร์คมิได้นาน 7 ปี มาร์ค แคล็ตโก้นเบิร์ก กำหนด สำหรับตนแล้วเกมเมอร์ซี่ย์ไซด์ ดาร์บี้แมตช์ เป็นเกมดาร์บี้แมตช์ที่รุนแรงกว่าคู่อื่นๆโดยเฉพาะอย่างยิ่งเวลาเล่นที่ เราดิสัน พาร์ค ที่จะดุดันมากมายเป็นพิเศษ
มาร์ค แคล็ตโก้เก๋นเบิร์ก สมัยก่อนผู้ตัดสินคนมีชื่อเสียง พูดว่าเกมเมอร์ซี่ย์ไซด์ ดาร์บี้แมตช์ เป็นเกมดาร์บี้แมตช์ที่ดุดันกว่าอย่างอื่นๆภายหลังที่เขาเคยโดนดุอย่างมากจากการลงเป่าเกมที่ หงส์แดง บุกไปชนะ เอฟเวอร์ตัน 2-1 ถึงสนาม เราดิสัน พาร์ค เมื่อตอนต.ค. ปี 2007
ในนัดหมายดังที่กล่าวถึงมาแล้ว แคล็ตหรูนเบิร์ก มิได้ชักใบแดงไล่ เดิร์ค เค้าท์ จอมบุก หงส์แดง ออกมาจากสนามขณะที่ เอฟเวอร์ตัน นำอยู่ 1-0 ทั้งๆที่ในขณะนั้น เค้าท์ เข้าสกัดใส่ ฟิล เนวิลล์ แบบเปิดปุ่มสตั๊ดอีกทั้ง 2 ข้าง ร้ายยิ่งกว่านั้นต่อไปเขายังไล่ โทนี่ ฮิบเบิร์ต กับ เนวิลล์ 2 ลำแข้ง เอฟเวอร์ตัน ออกมาจากสนาม รวมทั้งให้ลูกจุดลูกโทษกับ "ลิเวอร์พูล" อีก 2 ลูกด้วย แถมยังมิได้ให้จุดลูกโทษ เอฟเวอร์ตัน ในช่วงท้ายเกมทั้งยังที่ในขณะนั้น เจมี่ คาร์ราเกอร์ เสมือนจะทำร้าย โจลีออน เลสค็อตต์ ในกรอบจุดโทษ
ดังนี้ หลายข้างว่ากล่าวกระบวนการทำหน้าที่ของ แคล็ตหรูนเบิร์ก ในนัดหมายดังที่กล่าวมาแล้วข้างต้นอย่างหนัก โดยยิ่งไปกว่านั้นสาวก เอฟเวอร์ตัน ที่เฉ่งเขาหนักเป็นพิเศษ ซึ่งในที่สุดมันก็ทำให้ แคล็ตโก้เก๋นเบิร์ก จำต้องคอยจนกระทั่งปี 2013 กว่าที่กำลังจะได้ลงปฏิบัติหน้าที่ในเกม พรีเมียร์ลีก ที่ ข้าดิสัน พาร์ค อีกที
แคล็ตโก้นเบิร์ก กล่าวตอนออกรายการพ็อดแคสต์ของ คาร์ราเกอร์ ว่า "ในตอนนั้นภาวะของฉันมันแย่มาก ฉันไม่รู้จักแบบเดียวกันว่าเพราะเหตุไรผมถึงลงวินิจฉัยเกมนั้น ก่อนหน้านั้นผมพึ่งจะปฏิบัติหน้าที่ในเกม แมนเชสเตอร์ ดาร์บี้แมตช์ กับ ลอนดอน ดาร์บี้แมตช์ ไปหมาดๆด้วยเหตุนี้มันเลยเป็นเกมดาร์บี้แมตช์นัดหมายที่ 3 ของฉันในรอบ 3 หรือ 4 อาทิตย์"
"ฉันสารภาพว่าฉันประเมินความดุเดือดเลือดพล่านของมันต่ำไป มันเป็นเกมดาร์บี้แมตช์ของคนชนชั้นแรงงานอย่างแท้จริง เกมดาร์บี้แมตช์อื่นๆน่ะมันต่างออกไป อันนี้เป็นเกมที่รุนแรงมากมายๆเกมดาร์บี้แมตช์บางนัดหมายน่ะมันจะมีความดุดันก็เมื่อเล่นกันในสนามใดสนามหนึ่ง ดังเช่นว่าเกมระหว่าง ซันเดอร์แลนด์-นิวติดอยู่สเซิ่ล ที่มันจะดุเด็ดเผ็ดมันกว่าแม้เล่นกันที่ ซันเดอร์แลนด์ แล้วก็เกมระหว่าง เอฟเวอร์ตัน-หงส์แดง ที่มันจะรุนแรงกว่าถ้าเตะกันที่ ฉันดิสัน มันจะมีสนามใดสนามหนึ่งที่มีความถึงใจถึงอารมณ์มากยิ่งกว่าการเล่นที่สนามอีกที่อยู่ตลอด"
"ฉันคิดออกว่าในครึ่งแรกน่ะฉันเป่าได้เจ๋งเลย แม้กระนั้นในช่วงหลังมันเป็นฝันร้ายชัดๆฉันได้ฟังข้อคิดเห็นของผู้ช่วยของผมเกี่ยวกับจังหวะของ เดิร์ค เค้าท์ ซึ่งแม้ดูย้อนกลับไปถึงจังหวะนั้นแล้วน่ะมันก็ควรเป็นใบแดงสถานที่เดียว"
"นายเล่นแบบเสี่ยงมากมายๆมองสิ่งนายทำกับ เลสค็อตต์ สิ นายแทบฆ่าพวกเราทั้งที่ยังไม่ตายเลย! ฉันมิได้ลงปฏิบัติภารกิจในเกมของ เอฟเวอร์ตัน ไปอีกถึง 7 ปีก็ด้วยเหตุว่านายแท้ๆ! ยุคที่ฉันยังเป็นผู้ตัดสินวัยชายหนุ่มใน พรีเมียร์ลีก น่ะ ฉันยังไม่รู้เรื่องถึงสมดุลเท่าไรนัก ถ้าเกิดฉันมองเห็นจังหวะนั้นแล้วล่ะก็มันก็จะเป็นการให้จุดลูกโทษที่ง่ายที่สุดในชีวิตของฉันเลย รวมทั้งจนกระทั่งในขณะนี้ฉันก็ยังไม่เคยทราบว่าเพราะเหตุใดฉันถึงไม่เห็นจังหวะนั้น"
"ถ้าเกิดฉันเป่าให้เป็นลูกจุดลูกโทษแล้วล่ะก็ฉันก็คงโดนด่าน้อชูว่านี้นิดนึง จริงอยู่ว่าฉันแจกใบแดงให้นักฟุตบอล เอฟเวอร์ตัน ไปแล้ว 2 คน แล้วก็ให้ลูกจุดลูกโทษ หงส์แดง ไปถึง 2 ลูก แต่ว่าถ้าหากฉันเป่าให้ เอฟเวอร์ตัน ได้ลูกจุดลูกโทษลูกนั้นจนถึงทำให้พวกเขาได้โอกาสตีเสมอเป็น 2-2 แล้วล่ะก็ มันก็อาจจะไม่มีแฟนบอล หงส์แดง ใครที่ดุฉันอยู่ดี"
"มันแปลงเป็นว่าวันนั้นฉันวินิจฉัยทั้งหมดทุกอย่างแบบไม่เป็นใจกับ เอฟเวอร์ตัน แม้กระนั้นบางครั้งบางคราวนายจะมองไม่เห็นจังหวะฟาวล์บางจังหวะในระหว่างการแข่งขันชิงชัยหรอกนะ หากวันนั้นฉันเป่าให้พวกเขาได้ลูกจุดลูกโทษแล้วล่ะก็ ฉันก็บางครั้งก็อาจจะโดนด่าน้อยลง และก็ได้ลงเป่าเกมของ เอฟเวอร์ตัน ในอีก 7 ปีถัดมา แม้กระนั้นก็อย่างที่เข้าใจกันดีอยู่แล้วว่าฉันมิได้เป่าให้เป็นลูกจุดลูกโทษ"
"การกลับไปยังตรงนั้น (คือการลงเป่าที่ เราดิสัน พาร์ค ในเกมระหว่าง เอฟเวอร์ตัน กับ เซาธ์หมูแฮมป์ตัน เมื่อธันวาคม ปี 2013) มันเป็นฝันร้ายเลย เนื่องจากว่าฉันโดนดุหนักมากมาย ที่แท้ฉันก็ได้โอกาสได้กลับไปปฏิบัติภารกิจในสนามที่นั้นในเกมที่ดีๆอยู่บ้าง ยกตัวอย่างเช่นเกมที่พวกเขาชนะ แมนฯ ซิตี้ 4-0 แล้วก็วันที่พวกเขาคว้าชัยเหนือ แมนฯ ยูไนเต็ด แต่ว่าฉันสารภาพว่าฉันคงจะโดน เอฟเวอร์ตัน ชิงชังไปตลอดชีพนั่นแหละ"