คาร์ริคโชว์กึ๋น,ฟานเดอเบ็คตัวจริง! 5 ข้อน่าพึงพอใจก่อนเกมแมนยูเยี่ยมบียาร์เรอัล 
ไมเคิ่ล คาร์ริค จัดแจงเปิดตัวในฐานะกุนซือขัดตาทัพนำ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เยี่ยม บียาร์เรอัล ในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม กรุ๊ป เอฟ วันอังคารที่ 23 พ.ย.นี้
สำหรับแมตช์แรกในฐานะที่ปรึกษา "ผีแดง" คาร์ริค อาจจะจำต้องพบกับงานหนักพอเหมาะพอควรสำหรับเพื่อการปะทะกับ "เรือดำน้ำสีเหลือง" รวมทั้งการกระตุ้นสมาชิกให้ฮึกเหิมเพื่อคว้าสามแต้มสำคัญให้ได้
อย่าลืมว่าแมตช์นี้ไม่เพียงแค่ความมีชัยจะก่อให้พวกเขาได้โอกาสเข้ารอบน็อกเอาต์แจ่มใสแล้ว ยังเป็นการปลอบขวัญแรงใจได้อย่างดีเยี่ยมภายหลังที่กลุ่มจะต้องพบวิกฤติอีกทั้งในและก็นอกสนาม
1. เปิดตัวโชว์กึ๋น คาร์ริค
จำต้องบอกเลยว่า คาร์ริค จำเป็นต้องพบกับแรงกดดันอย่างมากสำหรับการคุมกลุ่มแมตช์แรก จำเป็นต้องนำกองทัพ "ผีแดง" เยี่ยม บียาร์เรอัล ที่สนามเอสตาดิโอ เด ลา เซรามีก้า ซึ่งนับว่าเป็นงานที่หินอย่างยิ่งจริงๆ
เหตุการณ์ในเวลานี้ แมนฯ ยูไนเต็ด รั้งผู้นำฝูงกรุ๊ป เอฟ แต่ว่าพวกเขามี 7 คะแนนพอๆกับ "เรือดำน้ำสีเหลือง" โดยเหตุนี้สำหรับในการบุกดินแดนวัวกระทิงดุ สามคะแนนก็เลยเป็นเรื่องสำคัญเป็นอย่างมาก
ในส่วนของแท็กติกมั่นใจว่า คาร์ริค อาจใช้แผนไม่ต่างอะไรจาก โอเล่ กุนทุ่งนาร์ โซลชา เนื่องจากว่าทั้งคู่คนทำงานด้วยกันมานานเกือบจะ 3 ปี แต่ว่าสิ่งที่น่าดึงดูดก็คือสไตล์การควบคุมกลุ่มของเขาจะผิดแผกหรือราวกับ "น้าทอฟฟี่" ที่นิยมนั่งคุมกลุ่มเป็นส่วนมาก !!
แน่ๆว่านี่เป็นงานที่ค่อนข้างจะหนักเอาการสำหรับ คาร์ริค เพราะว่าเขาได้ปฏิบัติภารกิจเป็นที่ปรึกษาหนแรกในชีวิต หากว่ากลุ่มจะมีทรัพยากรชั้นเยี่ยมก็ตาม แม้กระนั้นก็คงจะจะต้องใช้เวลาสำหรับการปรับพฤติกรรมเพื่อเหมาะสมกับแท็กติกของเขา
2. เก็บความมีชัยเพื่อลดกระแสบีบคั้น
ในเหตุการณ์ในตอนนี้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ค่อนจะมีปัญหาหนักทั้งยังในรวมทั้งนอกสนาม โดยเหตุนี้การบุกไปเยี่ยม บียาร์เรอัล เป็นสิ่งที่มีความสำคัยเป็นอย่างมาก เพราะเหตุว่ามันไม่ใช่แค่สามแต้มเพียงแค่นั้น แต่ว่ายังรวมทั้งการปลุกขวัญพลังใจด้วย
แมนฯ ยูไนเต็ด ตกไปอยู่ชั้น 8 ในตารางลีกโดยมีเพียงแค่ 17 คะแนนแค่นั้น แม้กระนั้นสำหรับแชมเปี้ยนส์ ลีก พวกเขายังมีลุ้นสำหรับการเข้าไปเล่นรอบน็อกเอาต์ เนื่องจากแม้เก็บชัยสำหรับเพื่อการเยี่ยม "เยลโล่ ดูดซับมารีน" คงจะทำให้กลุ่มซื้อตั๋วรอบ 16 กลุ่มท้ายที่สุด
นอกเหนือจากนั้นการเปิดฉากงานคุมกลุ่มแมตช์แรกของ คาร์ริค แม้ผลออกมาเป็นบวก มันน่าจะเป็นการปลอบโยนความสิ้นหวังให้กับแม่ทัพ "ผีแดง" ที่จำต้องเจ็บจากกระบวนการทำให้ โซลชา จำเป็นต้องกระเด็นออกมาจากตำแหน่งด้วย
แน่ๆว่าในแมตช์นี้ฟอร์มการเล่นของ แมนฯ ยูไนเต็ด บางครั้งก็อาจจะมิได้งามอย่างที่สาวก "เร้ด อาร์มี่" มุ่งมาด แม้กระนั้นขอเพียงแค่ให้ชนะก็เพียงพอ เพราะเหตุว่าแมตช์ถัดไปที่จะจะต้องเยี่ยม เชลซี จะได้เกิดกำลังใจฮึดสู้ถัดไป
3. ช่องทาง ฟาน เดอ เบ็ค
เดี๋ยวนี้หลายท่านเฝ้าดูว่า คาร์ริค จะเปิดโอกาส ดอนนี่ ฟาน เดอ เบ็ค สำหรับในการลงเล่นตัวจริง ด้วยเหตุว่า ตัวรุกเลือดชาวดัตช์ บางครั้งอาจจะเป็นตัวต่อสำคัญของ "ผีแดง" ที่คอยกันมานานก็ได้
แมนฯ ยูไนเต็ด มีปัญหาเรื่องดินแดนกึ่งกลางมาตลอด โดยการใช้แรงงาน สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ กับ เฟร็ด บางแมตช์ก็ดีแล้วบางแมตช์ก็ห่วยแตก ซึ่งทั้้งสองคนขาดความสม่ำเสมอ เวลาที่ ปอล ป็อกบา ยังมีปัญหาเจ็บ โดยเหตุนี้นี่เป็นจังหวะดีที่ คาร์ริค จะทดลองใช้งาน ฟาน เดอ เบ็ค สุดกำลัง
ในแมตช์กับ วัตฟอร์ด จอมบุกเลือดชาวดัตช์ ลงเล่นในช่วงหลัง และก็ทพผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม โดยเขาอยู่ในสนามเพียงแค่ไม่นานก็ออกฤทธิ์ออกเดชให้กลุ่มได้ในทันที นอกเหนือจากการที่จะกระแทกประตูได้แล้วยังผ่านบอลสร้างจังหวะให้กลุ่มอีกจำพวกนับครั้งไม่ถ้วน
นี่เป็นจุดที่น่าดึงดูดไม่น้อย เนื่องจากว่าถ้าเกิด คาร์ริค ใช้งาน ฟาน เดอ เบ็ค แล้วผลงานของนักฟุตบอลสะดุดตา งานนี้หลายๆคนคงจะจำเป็นต้องตั้งปัญหาว่า แล้วเพราะอะไร โซลชา ถึงไม่เปิดโอกาสนักฟุตบอลรายนี้ !!!
4. สามผสานแก้ตัว
ในส่วนของเกมรุกเดี๋ยวนี้ แมนฯ ยูไนเต็ด จะต้องกล่าวว่าบางครั้งก็อาจจะใช้ชุดเดิมที่แพ้ วัตฟอร์ด ซึ่งก็คือ มาร์คัส แรชฟอร์ด, คริสเตียโน่ โรนัลโด้ แล้วก็ เจดอน ซานโช่ เพราะว่า เอดินสัน คาวานี่ ยังมีปัญหาเจ็บ ส่วน เมสัน กรีนวู้ด ติดเชื้อโรควัววิด-19
จะว่าไปแล้ว 3 ผสานของ แมนฯ ยูฯ ชุดนี้นับว่าอันตรายอย่างยิ่งจริงๆ ยิ่งการจับ ซานโช่ ลงเล่นในตำแหน่งที่เขาถนัด ยิ่งช่วยทำให้นักฟุตบอลสามารถคาดคั้นฟอร์มเก่งออกมาได้มากเพิ่มขึ้น ส่วน แรชฟอร์ด กับ โรนัลโด้ นับว่ามีมาตรฐานชั้นยอดเยี่ยมอยู่แล้ว
ยิ่งการได้ บรูโน่ แฟร์นันด์ส ปฏิบัติหน้าที่เป็นผู้เล่นคนสำคัญ อาจทำให้ แมนฯ ยูฯ สามารถสร้างช่องทางอันตรายได้มากเพิ่มขึ้น ถึงกระนั้นแม้กลุ่มกำเนิดมีปัญหา คาร์ริค ก็สามารถเปลี่ยนแปลงเพศผู้เล่น ด้วยการใช้ เจสซี่ ลินการ์ด ลงมากลับเกมก็ได้
โดยเหตุนี้ในเรื่องของเกมรุกไม่น่าจะมีอะไรที่จะต้องกลุ้มใจเท่าไรนัก เนื่องจากด้วยประสิทธิภาพของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คงจะทำให้เกมรับของ บียาร์เรอัล จะต้องป่วนปั่นอย่างแน่แท้
5. คู่ขากองหลังตัวกลาง จะเป็นผู้ใด
สิ่งจำเป็นเดี๋ยวนี้ก็คือเกมรับของ แมนฯ ยูไนเต็ด ที่หละหลวมอย่างยิ่ง โดยยิ่งไปกว่านั้นการที่กลุ่มยังไม่มี ราฟาแอล วาราน รอปฏิบัติภารกิจเป็นตัวหลัก งานนี้ คาร์ริค จำต้องคิดอย่างระมัดระวังสำหรับเพื่อการจัดคู่กองหลังตัวกลาง ในการปะทะกับ บียาร์เรอัล
ขณะนี้ คาร์ริค มีตัวเลือกในตำแหน่งกองหลังตัวกลาง เพียงแต่ แฮร์รี่ แม็กแกว่งร์, วิคโคนร์ ลินเดอเลิฟ และก็ เอริก ไบยี่ ด้วยเหตุผลดังกล่าวการจำต้องต่อกรกับความแข็งแกร่งแล้วก็รวดเร็วทันใจของ อาร์เนาต์ ดานจูม่า อาจจะเกิดเรื่องที่อันตรายอย่างยิ่ง
แม้กระนั้นมีความน่าจะเป็นสูงที่ แมนฯ ยูไนเต็ด ในสมัยคาร์ริค จะยังคงสืบต่อแนวความคิดของ โซลชา สำหรับเพื่อการใช้งาน แม็กแกว่งร์ คู่กับ ลินเดอเลิฟ เนื่องจากขั้นต่ำๆสองคนนี้เล่นด้วยกันมานาน และก็คงจะต่อกรกับแนวรุกของ บียาร์เรอัล ก้าวหน้า
กระนั้นก็บางทีอาจเป็นได้ที่ คาร์ริค จะทดลองจับ แม็กแกว่งร์ นั่งสำรองเพื่อจะได้ทวนผลงานของตนในตอนที่ผ่ามา และก็เสี่ยงใช้งาน ลินเดอเลิฟ กับ ไบยี่ แทนก็ได้
ทอมเม้ง